6 เรื่องควรระวังก่อนเลือกอาหารเสริมสุขภาพด้วยตัวคุณเอง

แม้ว่าอาหารเสริมจะเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้สุขภาพของคุณกลับมามีความแข็งแรง ช่วยฟื้นฟู และช่วยเสริมคุณภาพในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการซื้ออาหารเสริม เพื่อรับประทานด้วยตัวคุณเอง จำเป็นต้องรู้เรื่องควรระวัง 6 เรื่องต่อไปนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมมากเกินไป

1.รู้โรคส่วนตัวก่อนซื้อ

โรคส่วนตัวหรือโรคประจำตัวที่คุณเป็นอยู่และมีการวินิจฉัยจากแพทย์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมการมียารักษาโรคที่จะต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมด้วยตัวเอง เพราะบางโรคจะไม่ถูกกับสารอาหารหรือสารสกัดธรรมชาติบางชนิด เช่น ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานและความดัน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามินรวมหรือ Vitamin Complex ที่จะรวมวิตามินทุกประเภท แร่ธาตุ และสารอาหารสำคัญไว้ในหนึ่งเดียว  ซึ่งส่วนผสมภายในอาจจะมีตัวกระตุ้น ทำให้อาการของโรคหนักขึ้นและวิตามินบางกลุ่ม มีอยู่ในร่างกายของผู้ป่วยอยู่แล้ว ถ้าได้รับมากเกินไปจะก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะภายในได้มากเลยทีเดียว

2.บรรจุภัณฑ์มาสมบูรณ์แค่ไหน?

เรื่องของบรรจุภัณฑ์ยังคงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่คุณควรระมัดระวัง ถ้าสั่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพมาแล้ว กลับพบว่าบรรจุภัณฑ์มาไม่สมบูรณ์แบบ มีรอยฉีกขาด หรือขวดและกล่องมีรอยร้าว โดนกรีด ควรทิ้งทันที หรือแม้แต่การซื้อที่ร้านขายยา ถ้าบรรจุภัณฑ์มาในลักษณะเดียวกัน ห้ามซื้อเด็ดขาด! เพราะวิตามินภายในหากถูกอากาศหรือแสงแดดจะเสื่อมสภาพลง ซึ่งเมื่อนำไปรับประทานแล้วย่อมไม่ได้ผลและอาจจะส่งผลเสียในด้านอื่น ๆ ตามมา

3.ส่วนประกอบอาหารเสริม

ก่อนซื้อมารับประทาน คุณควรตรวจสอบส่วนประกอบของอาหารเสริม เน้นดูวันที่การผลิตและหมดอายุทั้งวัน เดือน และปี  สารสกัดต่าง ๆ ที่ถูกใช้ภายในอาหารเสริม ถ้าคุณมีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีสารสกัดหรือสารใด ๆ ที่จะกระตุ้นต่อโรคที่เป็นอยู่ ไม่ควรเลือกรับประทาน หรือตรวจสอบดูว่ามีการใช้สารอันตรายหรือไม่ กรณีนี้ถือว่ามีความสำคัญมากและคุณควรต้องรู้ว่าโรคที่เป็นอยู่ไม่ควรรับประทานสารใดเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่ไม่มั่นใจว่าส่วนประกอบภายในอาหารเสริมที่สนใจจะอันตรายหรือไม่? สามารถนำชื่อที่อยู่บนฉลากของอาหารเสริมมาตรวจสอบบน Google หรือตรวจสอบภายในเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อการรับประทานที่มีความปลอดภัยมากที่สุด

4.ผู้ผลิตมีคุณภาพแค่ไหน

ผู้ผลิตจะมีคุณภาพมากแค่ไหน คุณสามารถตรวจสอบได้ เพราะถ้าเป็นโรงงานผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือยังไม่ได้รับการรับรองใด ๆ อาจใช้ส่วนผสมที่ไม่ถูกต้อง จึงถือเป็นอันตรายต่อผู้ที่บริโภคอย่างมาก ดังนั้นให้คุณดูที่ฉลากของอาหารเสริมและตรวจสอบชื่อของผู้ผลิต โดยคุณสามารถที่ตรวจสอบจากองค์กรของรัฐ เช่น ระบบการตรวจสอบใบอนุญาตของกระทรวงสาธารณสุข ที่คุณสามารถนำเลขใบสำคัญของการผลิตอาหารเสริมไปตรวจสอบ เพื่อค้นหาชื่อของผู้ผลิต เพียงเท่านี้คุณก็สามารถที่จะรู้ได้ทันทีว่าผู้ผลิตนั้น ๆ มีชื่ออย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยคุณสามารถคลิกเข้าไปตรวจสอบได้ที่  https://porta.fda.moph.go.th/fda_search_all/main/search_center_main.aspx

5.รู้วิธีรับประทาน

เมื่อคุณมั่นใจเราว่าอาหารเสริมที่ซื้อมาตรงต่อสุขภาพของตนเอง และสามารถตอบโจทย์ด้านการดูแลสุขภาพอย่างตรงใจ  คุณควรศึกษาถึงวิธีการรับประทานอย่างถูกต้อง เน้นการรับประทานตามที่ผู้ผลิตได้ระบุไว้บนฉลากของอาหารเสริม เช่น รับประทานก่อนนอน, รับประทานก่อนอาหาร, รับประทานไปร่วมกับมื้ออาหาร หรือรับประทานหลังอาหาร ในระยะเวลา 30 นาที เป็นต้น ซึ่งการรับประทานตามที่ผู้ผลิตได้แนะนำไว้ จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพของอาหารเสริมมีเพิ่มมากขึ้น

6.รีวิวจากผู้ใช้จริง

รีวิวจากผู้ใช้งานจริง เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่คุณควรมองหา เพื่อทำการศึกษาตัวผลิตภัณฑ์ว่าดีจริงหรือไม่? เน้นการศึกษาจากเว็บบอร์ดหรือเว็บรีวิวที่ไว้วางใจได้ ไม่เป็นหน้าม้าของตัวผลิตภัณฑ์ มีการบ่งบอกถึงข้อดีและข้อเสียอย่างครบถ้วน เพื่อทำให้คุณพิจารณาเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ

ถ้าคุณกำลังมีแผนที่จะซื้ออาหารเสริมสุขภาพด้วยตัวคุณเอง ขอแนะนำ 6 เรื่องควรระวังนี้และคุณควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเอง เน้นข้อมูลจริงและรีวิวจริง เพื่อทำให้คุณสามารถซื้อได้อย่างมั่นใจและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการใช้งานในอนาคต ส่วนผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานเท่านั้น เพื่อให้แพทย์ได้แนะนำว่าวิตามินหรือแร่ธาตุใดบ้างที่ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาต่อโรคที่เป็นอยู่และอาจจะกระตุ้นให้ โรคที่อยู่ภายในแสดงอาการออกมามากเกินปกติ จนอาจกลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

Tags

Comments are closed